วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ของดีจังหวัดมหาสารคาม

 
 
  


          องค์พระธาตุนาดูนเพิ่มพูนศักดิ์                   เป็นที่สักการะพระงามไฉน
ประเพณีบุญเดือนสามนามเกรียงไกร                       งานยิ่งใหญ่เมืองมหาน่าชวนชม
          แม้นเป็นเมืองไม่ใหญ่แต่ใฝ่สุข                    ประชาชนทุกทุกเหล่าเฝ้าสุขสม
ขอเชิญชวนยามผ่านผินถิ่นอุดม                             เข้าชื่นชมเมืองมหาสารคาม



สินค้า OTOP 5ดาว อ.แกดำ จ.มหาสารคาม

 ความเป็นมาทรงคุณคา ภูมิปัญญาท้องถิ่น

    สมัยก่อนชาวบ้านมีการเข็นฝ้ายในเวลากลางคืน สาวๆลงมาเข็นฝ้าย ก็มีหนุ่มๆมาจีบโดยจะดีดพิณหรือเป่าแคน สาวๆได้ยินมักพูดตามเสียงแคนว่า”แย่นแย่ แย่นแย่ แย่นแย่ ขั้นบ่แวะเฮือนนี้ จะแวะเฮือนได๋” ผ้าฝ้ายจึงเป็นผลิตภัณฑ์ ของชาวบ้านหนองขอนในปัจจุบัน
      “ผ้าฝ้าย"  เป็นผลผลิตจากต้นฝ้ายพืชสกุล(Genus) Gossypium.ในวงค์(Family) เป็นไม้พุ่มขนาด เล็กถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ มีการนำมาปลูกในเอเชีย และแอฟริกา ชาวบ้านนำใยฝ้ายจากดอก มาเป็นเส้นฝ้าย ทอเป็นผ้า ในตอนแรกใช้นุ่งห่ม ภายหลังจึงผลิตไว้จำหน่ายเป็นรายได้เสริม
      “
ผ้าฝ้ายมัดหมี่ลายสร้อยดอกหมาก" เป็นผ้าที่ ชาวบ้านหนองบัวดงได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ต่อมาได้คัดเลือกเป็นลายเอกลักษณ์ ประจำจังหวัดมหาสารคาม “สร้อยดอกหมากหลากหลายสี เป็นของดีภูมิ ปัญญาแห่งอิสาน เป็นของฝากจากใจไทสารคาม ปทุมภัณฑ์ไหมงามประทับใจ”
      พ.ศ.2541 สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเสด็จเยี่ยมพสกนิกรภาคอิสาน จังหวัดมหาสารคาม ได้จัดประกวดผ้าไหมขึ้น เพื่อส่งไปประกวดที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ผ้าไหม บ้านนาคูณ ได้อันดับ 2 ของจังหวัด ปัจจุบันบ้านนาคูณมีผลิตภัณฑ์ ทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าห่ม ผ้าสะไบ ผ้าขาวม้า
  

เสื่อกกบ้านแพง

          บ้านแพงตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2369 สาเหตุที่ชื่อบ้านแพง เพราะมีต้นแพง (ชื่อต้นไม้) ขึ้นหนาแน่นเป็นป่าบริเวณที่ตั้งหมู่บ้าน จึงเรียกว่า "บ้านแพง" อาชีพหลักของประชาชนคือทำนา รองลงมาคือการทอเสื่อกก และที่เหลือเป็นการประกอบอาชีพ รับจ้างทั่วไป โดยมากหลังฤดูเก็บเกี่ยว ชาวบ้าน จะออกไปหางานทำที่อื่น
          ชุมชนแพงเป็นชุมชนที่เน้นการทอเสื่อกกมาตั้งแต่อดีต ผลิตภัณฑ์ ของบ้านแพงนั้น ได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัยทั้งในเรื่องรูปแบบ และลวดลาย ทำให้บ้านแพง กลายเป็นหมู่บ้าน OTOP ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีในด้านผลิตภัณฑ์เสื่อกกทั้งจากในและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชุมชนกลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน

         การทอเสื่อกกมีมาประมาณ 100 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ทอเสื่อเพื่อใช้สอยในครัวเรือนสำหรับแลกเปลี่ยนกับสิ่งของเครื่องใช้ ภายในหมู่บ้านและใกล้เคียง โดยเริ่มต้นทอเสื่อจากต้นกกสามเหลี่ยม (ต้นผือ) ต่อมาพระที่วัดได้นำพันธ์ตินกก (ไหล) มาจากจังหวัดร้อยเอ็ด มาทดลองปลูกที่ริมบึงบ้านแพง
          ผลปรากฏว่า ปลูกได้ผลดี เจริญเติบโตเร็ว จึงมีราษฎรนำมาปลูกเพิ่มกันเกือบทุกครัวเรือน มีคุณสมบัติเหนียว เมื่อทอเป็นผืน จะใช้งานได้ดี มีความคงทนถาวรมากกว่าการทอจากต้นผือ ต่อมามีการจัดตั้งเป็นกลุ่มอาชีพในรูปคณะกรรมการกลุ่มอาชีพ ทอเสื่อกกบ้านแพงจนถึงปัจจุบัน

ขั้นตอนการผลิตเสื่อกก
• การปลูกต้นกก การเตรียมต้นกก (หน่อ) และแปลงปลูกโดยพรวนดิน 2 ครั้ง เพื่อให้ดินร่วนซุย มีน้ำขังเล็กน้อยพอให้แฉะ เพื่อปลูกดำหน่อกกง่าย โดยระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1-2 ฟุต ได้ 7 วัน ปล่อยน้ำเข้าสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15 -15- 15 ประมาณ 25 กก.ต่อ 1 ไร่ 1-2 เดือน/ครั้ง
 • การเก็บเกี่ยวต้นกก เมื่ออายุกกได้ประมาณ 2-4 เดือน กกเริ่มมีความเหนียวพอประมาณ โดยสังเกตต้นกกออกดอก ซึ่งเป็นระยะที่มีความเหนียวจึงเริ่มตัดกกได้ โดยใช้มีดหรือเคียวตัดบริเวณโคนต้น เพื่อให้กกแตกหน่อขึ้นมาใหม่

• กรรมวิธีการซอยและการตาก และย้อม การซอยกกทำได้ 2 แบบ คือ การซอยสดๆหรือผึ่งแดดให้พอหมาดๆ (1 แดด)จึงนำมาซอย 1 ต้น แล้วแต่ขนาดของต้นกก และลักษณะที่นำมาใช้แล้วนำไปตากแดดให้แข็งประมาณ 2-3 แดดโดยกกจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือสีขาว

          จากนั้นเราจะเข้าสู่ขั้นตอนการย้อม ก่อนย้อมกกต้องนำเส้นกกไปแช่น้ำ ให้เส้นกกอิ่มน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง นำกก ผึ่งแดดให้พอหมาดๆ นำเส้นกกลงในหม้อย้อมสีที่เตรียมไว้ จนเส้นกกอิ่มสีหรือประมาณ 20 นาที แล้วจึงนำขึ้นผึ่งแดด ประมาณ 2 แดด นำกกเข้าเก็บเพื่อรอการทอต่อไป
ส่วนวิธีที่เก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกกนั้น ควรเก็บไว้ในห้องที่เก็บควรไม่มีอากาศชื้น เมื่อขึ้นราควรเช็ดและขัด แล้วผึ่งแดดให้แห้ง ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปแล้วควรมีถุงพลาสติกห่อหุ้มเพื่อไม่ให้อากาศเข้า


สินค้า OTOP 5ดาว อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม
 ความเป็นมาทรงคุณค่า ภูมิปัญญาท้องถิ่น
      
  “ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก” ชาวบ้านแถบ จังหวัดมหาสารคาม ได้ทอตามแบบผ้าโบราณเก่าแก่ ของบรรพบุรุษ และบอกว่าเป็นลาย “สร้อยดอกหมาก” ซึ่งเกิดจากการนำเอาลาย โคมห้ามามัดซ้อนเข้ากับลายโคมเก้า และทำโอมหมี่แลเงา ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษเป็นจุดเด่นคือเป็นลายเล็กที่มีความละเอียด




 รายชื่อ OTOP จ.มหาสารคาม

กลุ่มปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ
ผลิตภัณฑ์ : ผักปลอดสารพิษ
ติดต่อ : นายจำลอง ธัญญาวาล (043-723546)
ที่อยู่ : หมู่ 5 บ้านขิงแคง ต.แก้งแก อ.โกสุมพิสัย มหาสารคาม -44000
กลุ่มทอผ้ามัดหมี่
ผลิตภัณฑ์ : ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม
ติดต่อ : นางเคน จุฑาศรี (01 7396325 6701580)
ที่อยู่ : 2/13 หมู่ 3 บ้านหนองคู - ศรีวิไล ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง มหาสารคาม 44000
กลุ่มทอผ้าไหม
ผลิตภัณฑ์ : ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าโสร่ง ผ้าขาวม้าไหม
ติดต่อ : นางไสว ยอดวงษ์กอง (043-799041)
ที่อยู่ : 97 หมู่ที่ 1 บ้านนาสีนวล ตำบลนาสีนวล อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย มหาสารคาม -44000
กลุ่มเกษตรกรข้าวกล้อง
ผลิตภัณฑ์ : ข้าวกล้อง
ติดต่อ : นางจำลอง เพชรแสนค่า (044-448707)
ที่อยู่ : หมู่ที่ 14 ตำบลเม็กดำ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย มหาสารคาม -44000
กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านแสบง
ผลิตภัณฑ์ : ผ้าขาวม้า
ติดต่อ : นางคำพัน สิงลี (043-727153)
ที่อยู่ : 19 หมู่ 8 ต.ดอนงัว อ.บรบือ มหาสารคาม 44130
กลุ่มสตรีทอผ้าไหมบ้านนาเมือง
ผลิตภัณฑ์ : ผ้าไหมบ้านนาเมือง
ติดต่อ : นางคำพันธ์ พันราช (043-799237)
ที่อยู่ : 67 หมู่ 14 ต.นาข่า อ.วาปีปทุม มหาสารคาม 44120
กลุ่มสตรีตัดเย็บหมอนขิตบ้านทองหลาง
ผลิตภัณฑ์ : หมอนขิต
ติดต่อ : นางเกษ ปะนันโต (043-724773)
ที่อยู่ : 110 หมู่ 3 ต.โคกสีทองหลาง อ.วาปีปทุม มหาสารคาม 44120
กลุ่มสตรีทอผ้าหมบ้านโนนสำราญ
ผลิตภัณฑ์ : ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเรียบ
ติดต่อ : นางขำ คำยา ()
ที่อยู่ : 100 หมู่ 67 ต.วังไชย อ.บรบือ มหาสารคาม 44130


 
ที่มา:http://www.taksilanakhon.com/wizContent.asp?wizConID=159&txtmMenu_ID=7
http://sarakhambannchan.it4social.net/article-detail-264.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น